เทคนิคการทำข้อสอบเก่า การเตรียมความพร้อมในการสอบของแต่ละคนย่อมมีการเตรียมความพร้อมที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง บางคนคือความเข้าใจต่อการเรียนอยู่แล้วก็อาจจะไม่ต้องเตรียมความพร้อมเยอะบางคนที่คะแนนอยู่กลางๆหรือว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมและการให้ความสำคัญเยอะๆถึงจะสอบผ่านได้ การออกสอบแต่ละครั้งคุณครูก็คือตัวชี้วัดตัวชี้วัด 1 ว่าจะทำให้การสอบของเราง่ายหรือไม่ง่ายขึ้นอยู่กับคุณครูด้วย แปลว่าการให้ข้อสอบหรือการออกข้อสอบของคุณครูนั้นจะยาก แต่ถ้าครูบอกแนวข้อสอบเราสามารถนำแนวข้อสอบนั้นไปใช้ในการอ่านหนังสือได้แต่จะมีคุณครูบางประเภทหรืออาจารย์บางคนที่จะบอกแนวข้อสอบในการบอกว่าอ่านทั้งเล่ม
เทคนิคการทำข้อสอบเก่า ออกทุกบททุกบทซึ่งการให้แนวข้อสอบในลักษณะนี้ก็จะไม่ได้เป็นตัวช่วยที่ทำให้เราง่ายต่อการจัดอยู่ในการอ่านข้อสอบเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นตัวช่วยที่จะทำให้การให้ข้อมูลลักษณะนี้เราสามารถอ่านข้อสอบได้อย่างถูกต้องคือเทคนิคการทำข้อสอบเก่านั้นเอง การนำข้อสอบเก่าที่เคยสอบของรุ่นพี่ของรุ่นที่เคยเรียนมาแล้วหรือ ข้อสอบที่สอบในการภาคมาใช้ในการสอบปลายภาคอาจจะไม่ใช่เนื้อหาเดียวกันแต่เราสามารถจับจุดได้แล้วว่าครูคนนี้ออกข้อสอบแนวไหนวิเคราะห์ท่องจำหรือว่าอะไรเพราะฉะนั้นการนำข้อสอบเก่ามาใช้ในการติวก็จะช่วยให้เราอ่านได้อย่างตรงจุดมากกว่าการสุ่ม การอ่านบทเพราะการอ่านหนังสือทุกโกรธไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถทำได้และมีความเข้าใจแต่เราใช้เทคนิคในการนำข้อสอบที่เคยสอบมาแล้วในการอ่านก็จะช่วยให้เราจับจุดได้ถูกต้องมากขึ้น
เทคนิคการทำข้อสอบเก่า สิ่งที่มีความจำเป็นอีก 1 ข้อคือการเตรียมความพร้อมในด้านของร่างกายถ้าเรามีร่างกายที่พร้อม แล้วนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอจัดสรรเวลาเตรียมความพร้อมในวันสอบวันที่ 22 หนังสือตั้งแต่วันที่ 15 มีเวลาอ่านถึง 3-4 วันอ่านวันละ 2 วิชา 3 วิชาแล้วแต่ก่อนวันสอบ 1 วันเรานอนพักผ่อนเตรียมพร้อมเพียงพอเลย เราก็จะสามารถทำข้อสอบได้อย่างผ่านฉลุยและนี่ก็คือเทคนิคของการอ่านหนังสือศิลปะและคนที่อยู่ในช่วงมหาลัยเราเชื่อว่ามีการนำเทคโนโลยีมาใช้แล้วเพราะว่าผ่านประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะยิ่งตี 4 จะรู้มากกว่าปี 1 ปี 2 เพราะฉะนั้นเราก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้ได้เราเชื่อว่าจะช่วยให้ หนังสือของท่านประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นและนี่ก็คือเทคนิคการทำข้อสอบเก่าจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการทำข้อสอบได้แน่นอนถ้าเราไม่รู้แนวข้อสอบจริงๆ